วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2562

รักบังใบ : รวงทอง ทองลั่นทม

...




รวงทอง ทองลั่นธม เดิมชื่อ ก้อนทอง ทองลั่นธม เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม2480 ที่ตำบลบ้านโพ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อายุ 2 ปี มารดาเสียชีวิตจึงไปอยู่กับยายจนถึง พ.ศ. 2484     เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 และ พ.ศ. 2485 เกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯ อย่างหนัก  ยายจึงอพยพไปอยู่ที่อยุธยาแล้วย้ายกลับมาที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง เข้าเรียนที่โรงเรียนนันทนศึกษา จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แล้วไปเรียนต่อที่โรงเรียนขัตติยาณีผดุง และเพราะทราบดีว่าฐานะทางบ้านยากจน จึงตั้งใจเรียนจนสอบได้ที่หนึ่งและเป็นหัวหน้าชั้นด้วย ระหว่างที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พ่อทำงานไม่ไหวเพราะสุขภาพไม่ดี จึงต้องลาออกจากโรงเรียนเมื่ออายุเพียง 17 ปีเท่านั้น

รวงทองเล่าถึงชีวิตตอนนี้ว่า เด็กผู้หญิงจากอยุธยาคนหนึ่งกำพร้าแม่ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ พ่อกับยายเลี้ยงดูจนโต มีความรักความมุ่งมั่นอยากจะร้องเพลง ที่ได้ยินจากวิทยุ จึงไปสมัครเป็นนักร้องกับครูเอื้อ ซึ่งท่านก็มีเมตตารับไว้ ทั้งๆที่อายุแค่ 17 ปี ยังรับราชการหรือเป็นลูกจ้างของกรมโฆษณาการ (กรมประชาสัมพันธ์) ไม่ได้ด้วยซ้ำ  ไม่มีเงินเดือน ไม่มีเบี้ยเลี้ยงใดๆทั้งสิ้น มีแต่โอกาสที่ได้เข้าร่วมการฝึกเรียนวิธีขับร้อง และฝึกซ้อมร่วมกับนักร้องของสุนทราภรณ์ โดยมีครูเอื้อเป็นผู้ฝึกสอนด้วยตนเอง สีไวโอลิน หรือเคาะเปียโนให้รวงทองซ้อมร้องเพลงด้วยตัวท่านเอง

เมื่อได้เวลาพอสมควร ครูเอื้อก็ขอให้ครูเพลงดังๆยุคโน้น ช่วยแต่งเนื้อให้ ครูชอุ่ม ปัญจพรรค์ คิดแต่งเพลงแรกให้คุณรวงทอง จากทำนองเพลงไทยเดิม บังใบ  คิดหาวรรคพิเศษให้คนฟังเกิดความซาบซึ้งใจ จนเห็นตะวันตกดิน เกิดความเศร้า พลันคำว่า"น้ำตาตกตามตะวัน"ก็แว่บขึ้นมาทันที รู้สึกพอใจกับวรรคนี้มาก  ครูเอื้อเป็นผู้ใส่ทำนอง ทำให้รวงทอง ทองลั่นทม ได้เกิดเต็มตัวด้วยเพลง รักบังใบเมื่อ พ.ศ.2499  ครูชอุ่มเป็นผู้ตั้งชื่อนักร้องให้ว่า "รวงทอง ทองลั่นทม จากนั้นก็มาดังทั่วประเทศด้วยเพลง ยังจำได้ไหมและเพลง ขวัญใจเจ้าทุยโดยเฉพาะเพลงหลังฮิตทั้งประเทศจริงๆ ร้องกันตั้งแต่เมืองหลวงของประเทศไทย ไปจนถึงท้องทุ่งท้องนาทุกๆจังหวัด   รัตนะ ยาวะประภาษ ตั้งฉายาว่า นักร้องเสียงน้ำเซาะหิน

ครูเอื้อ สุนทรสนาน เขียนถึง รวงทอง ทองลั่นธมว่า   รวงทองเป็นศิษย์คนหนึ่งของผม ในจำนวนหลาย ๆ คนที่ผมภาคภูมิใจ เราได้ร่วมงานเพลงกันมาสมัยหนึ่ง เธอเป็นผู้ที่ได้รับผลสำเร็จจากการร้องเพลงอย่างดียิ่ง ในแบบฉบับของตนเอง ตลอดเวลาที่อยู่ในความดูแลของผลตั้งแต่อายุ 17 ปีได้เริ่มต้นฝึกฝนร้องเพลงกับวงดนตรีสุนทราภรณ์เพียง 2 ปี ก็ได้ร้องเพลงแรกชื่อ รักบังใบจากคำร้องของครูชอุ่ม ปัญจพรรค์ ร้องส่งวิทยุกระจายเสียง เมื่อสิ้นเสียงของเธอ บรรดาแฟนเพลงถึงกับวิ่งเกรียวกราวมาขอดูตัวนักร้อง ตลอดจนผู้ใหญ่ และผู้อุปการะวงดนตรีได้ให้ความสนใจโทรมาไต่ถาม และขอฟังเพลงนี้อีกครั้งในรายการเดียวกัน

ปี 2497 สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เชิญวงดนตรีสุนทราภรณ์ไปบรรเลงที่ห้องประชุมของมหาวิทยาลัย พอดนตรีแสดงไปสักครึ่งรายการ ครูเอื้อได้ประกาศแนะนำเด็กนักร้องหน้าใหม่ที่ไม่เคยแสดงที่ไหนมาก่อน ชื่อรวงทอง ทองลั่นทม จะมาร้องเพลง"รักบังใบ" พอเด็กที่ชื่อรวงทองเดินออกมา นักศึกษาก็โห่กันใหญ่ เพราะรวงทองวันนั้นใบหน้ากลมนิดเดียวแต่ทำผมฟูใหญ่มาก ผิวก็ค่อนข้างดำ เสื้อผ้าก็เชย เสียงโห่ยังดังอยู่แม้ดนตรีขึ้นอินโทรแล้ว แต่พอรวงทองเริ่มร้อง"กามเทพหลอกลวง เสียบศรปักทรวง ให้ห่วงหา..." เท่านั้นแหละ เสียงโห่ค่อยลดลงและหายเงียบไปอย่างรวดเร็ว เสียงคุณรวงทองสะกดนักศึกษาให้ทึ่งในน้ำเสียงและลีลาการร้อง พอร้องจบเท่านั้น เสียงปรบมือดังกึกก้องหอประชุมและยาวนานกว่านักร้องท่านอื่นในวันนั้น

ชอุ่ม ปัญจพรรค์ เขียนถึงรวงทองว่า... เมื่อ อาเอื้อ รับเธอไว้เป็น ดาวรุ่ง นั้นก็ได้ฝึกฝนให้ร้องเพลงตามแนวเสียงหวาน ได้ร่วมร้องเพลงหมู่เป็นการฝึกหัดไปในตัว เพราะความที่เป็นเด็กที่มีความมั่นใจในตัวเองมาก แต่งตัวตามใจตน จึงเกิดมีคนให้สมญานามว่า ลูกเป็ดขี้เหร่อีกชื่อหนึ่ง สาเหตุเพราะว่าสูงโปร่ง พอนุ่งกระโปรงสุ่มไก่ ใส่รองเท้าส้นสูง เวลาเดินแลดูคล้ายลูกเป็ด ส่วนคำว่า ขี้เหร่นั่นเรียกด้วยความเอ็นดู  ครั้งหนึ่งที่วงดนตรี สุนทราภรณ์ จะออกแสดงที่โรงภาพยนตร์ เฉลิมกรุง ซึ่งขณะนั้นเป็นโรงหนังชั้นหนึ่ง อาเอื้อ ให้พี่แต่งเพลง บังใบให้ ไอ้ก้อน ร้อง....ด้วยเหตุที่เพลงเดิมชื่อ บังใบ จึงเสริมคำว่า รัก ไปอีกคำ รักบังใบจึงสมบูรณ์ เมื่อบรรเลงที่โรงหนังเฉลิมกรุง ก้อนทองจึงเปลี่ยนเป็น รวงทองดังเป็นพลุแตก เพราะ รวงทอง มีพรสวรรค์ในการร้องเพลงด้วยน้ำเสียงเพราะ คำร้องเพราะ คำร้องชัด ร้องเพลงทำนองเพลงไทยเดิมแท้ๆ ยังดังขนาดนั้น เพราะฉะนั้นจึงทำให้ พี่อุ่ม ได้ชื่อไปด้วย ขอบใจมากนะน้องรัก ขอบใจจริงๆ และขอบใจมากที่ยกย่อง พี่อุ่ม    น้องเป็นเด็กกตัญญูดีมาก พี่ว่าเพราะคุณธรรมนี่แหละที่บันดาลให้ รวงทอง ทองลั่นธมดังตลอดกาล

รวงทอง ทองลั่นธม ได้รับรางวัลใบโพธิ์ทองพระราชทาน จากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2514 (ในฐานะนักร้องผู้เผยแพร่ภาษาไทยได้ชัดเจนถูกต้อง ), รางวัลแผ่นเสียงทองพระราชทาน จากเพลง วนาสวาท, รักเธอเสมอ ในปี พ.ศ. 2508 และได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงไทยสากล) ประจำปี พ.ศ. 2539

(ขออนุญาตเก็บมาจากไลน์)
เพลงรักบังใบ 
https://bit.ly/35YTjWi

ไม่มีความคิดเห็น: